ยาพาราเซตามอล ใช้อย่างไรให้ปลอดภัยและได้ผลดี
-
- 517
ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) เป็นยาบรรเทาอาการปวด ลดไข้ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไปและนิยมใช้กันอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งยังสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อและร้านขายยาทั่วไป โดยที่ไม่ต้องใช้ใบสั่งยาจากแพทย์ นอกจากนี้ ยาพารายังจัดอยู่ในยาสามัญประจำบ้าน และวันนี้เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับยาชนิดนี้กันให้มากยิ่งขึ้น เพื่อที่คุณจะได้ใช้ยาได้อย่างเหมาะสม และลดความเสี่ยงที่อาจเป็นอันตรายจากการใช้พาราเซตามอลที่มากเกินไป
สรรพคุณของยาพาราเซตามอล
ยาพาราเซตามอลมีสรรพคุณในหลากหลายด้านคือ ช่วยบรรเทาอาการปวดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดประจำเดือน ปวดฟันและอาการปวดเนื่องจากแมลงสัตว์กัดต่อย เป็นต้น ตลอดจนช่วยในการลดไข้ โดยเหมาะสำหรับอาการปวดที่ไม่รุนแรงมากนัก
รูปแบบของยาพาราเซตามอล
ยาพาราเซตามอล มีด้วยกัน 3 รูปแบบ ดังนี้
1.ชนิดเม็ดรับประทาน ยาพาราเซตามอลชนิดเม็ดจะเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 12 ปีขึ้นไปที่สามารถรับประทานยาชนิดเม็ดได้
2.ชนิดน้ำรับประทาน ยาที่เหมาะสำหรับเด็ก โดยรับประทานได้ตั้งแต่แรกเกิด แต่ควรได้รับคำแนะนำในการใช้ยาจากแพทย์เท่านั้น
3.ชนิดฉีด ยาพาราชนิดนี้จะต้องได้รับคำสั่งในการใช้ยาจากแพทย์เช่นกัน ซึ่งจะได้รับสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ที่รักษาด้วยการรับประทานยาแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นหรือไม่ได้ผล
ปริมาณการใช้ยาที่เหมาะสม
1.ยาพาราเซตามอลชนิดยารับประทาน
- ปริมาณการใช้ยาพาราเซตามอลสำหรับเด็ก ควรใช้ในปริมาณ 10-15 โดยมีระยะห่างในการใช้ยา 4-6 ชั่วโมง ภายใน 24 ชั่วโมง แต่ไม่ควรใช้ยาเกิน 5 ครั้ง
- ปริมาณการใช้ยาพาราเซตามอลสำหรับผู้ใหญ่ ควรใช้ยาในปริมาณ 500 มิลลิกรัมทุกๆ 4-6 ชั่วโมง 1 วัน แต่ไม่ควรใช้เกิน 4,000
2.ยาฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
- ปริมาณยาฉีดสำหรับเด็ก 1/4-1/2 หลอด ต่อการฉีด 1 ครั้ง
- ปริมาณยาฉีดสำหรับผู้ใหญ่ 1/2-1 หลอด ต่อการฉีด 1 ครั้ง
วิธีการใช้ยาพาราเซตามอล
การใช้ยาพาราเซตามอลเป็นยาที่สามารถใช้ได้โดยที่ไม่ต้องได้รับใบสั่งจากแพทย์ แต่การใช้ยาควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม และควรใช้โดยเว้นระยะห่างทุก 4-6 ชั่วโมง สำหรับปริมาณการใช้ยาที่เหมาะสมคือ 500 -1,000 mg.
ข้อควรระวัง หากใช้ยาที่มากเกินไป
หากมีการใช้ยาพาราเซตามอลในปริมาณที่มากเกินไปอาจจะส่งผลอันตราย และผู้ป่วยอาจมีอาการดังต่อไปนี้ได้
- ท้องเสียและปวดท้องอย่างรุนแรง
- เหงื่อออกมากผิดปกติ
- เบื่ออาหาร
- คลื่นไส้อาเจียน
ผลข้างเคียงจากการใช้ยาพาราเซตามอล
การใช้ยาพาราเซตามอล ถึงแม้ว่าจะเป็นยาที่สามารถหาซื้อใช้ได้โดยทั่วไปโดยไม่ต้องใช้ตามใบสั่งแพทย์ แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงจากการใช้ยาที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนี้
- อุจจาระเป็นเลือด หรืออุจจาระมีสีดำ
- ปัสสาวะเป็นเลือด
- มีอาการไข้หนาวสั่นและมีอาการปวดคันตามเนื้อตัว
- มีจุดเล็กๆ สีแดงขึ้นบริเวณผิวหนังหรือบางรายอาจจะมีผื่นคันร่วมด้วย
- มีแผลร้อนในหรือจุดสีขาวบริเวณริมฝีปากและภายในช่องปาก
- เลือดออกง่ายผิดปกติ
- เหนื่อยง่าย
ข้อควรระวังในการใช้ยาพาราเซตามอล
- ควรใช้ยาในระยะเวลาที่ห่างกัน 4-6 ชั่วโมง โดยใช้ปริมาณ 500-1,000 ภายใน 1 วันไม่ควรใช้ยาเกิน 4,000 มิลลิกรัม
- ไม่ควรใช้ในผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคตับ หากจำเป็นต้องใช้ยาควรได้คำแนะนำจากแพทย์หรือได้รับใบสั่งจากแพทย์เท่านั้น
- ไม่ควรใช้ยาในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง โดยควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาทุกกรณี
- ไม่ควรใช้ยาพาราเซตามอลร่วมกับยาแก้ปวดชนิดอื่นๆ เพราะยาแก้ปวดเหล่านั้นมักจะมีส่วนผสมของยาพาราเซตามอลร่วมอยู่แล้ว
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระหว่างการใช้ยา เพราะอาจจะมีผลต่อการทำงานของตับ
- สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนใช้ยาพาราเซตามอล
ยาพาราเซตามอล เป็นยาสามัญประจำบ้านที่สามารถซื้อใช้ได้โดยทั่วไปตามร้านขายยาหรือตามร้านสะดวกซื้อต่างๆ โดยที่ผู้ใช้ยาสามารถใช้ยาได้เลยโดยไม่ต้องได้รับใบสั่งจากแพทย์เครื่องดูดไขมัน แต่หากมีการใช้ยาในปริมาณที่ไม่เหมาะสมหรือการใช้ยาในปริมาณที่มากจนเกินไปก็อาจส่งผลอันตรายต่อร่างกายได้ ดังนั้นเพื่อให้การใช้ยาพาราเซตามอลเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและใช้ยาอย่างถูกวิธีจะดีที่สุด
ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) เป็นยาบรรเทาอาการปวด ลดไข้ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไปและนิยมใช้กันอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งยังสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อและร้านขายยาทั่วไป โดยที่ไม่ต้องใช้ใบสั่งยาจากแพทย์ นอกจากนี้ ยาพารายังจัดอยู่ในยาสามัญประจำบ้าน และวันนี้เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับยาชนิดนี้กันให้มากยิ่งขึ้น เพื่อที่คุณจะได้ใช้ยาได้อย่างเหมาะสม และลดความเสี่ยงที่อาจเป็นอันตรายจากการใช้พาราเซตามอลที่มากเกินไป สรรพคุณของยาพาราเซตามอล ยาพาราเซตามอลมีสรรพคุณในหลากหลายด้านคือ ช่วยบรรเทาอาการปวดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดประจำเดือน ปวดฟันและอาการปวดเนื่องจากแมลงสัตว์กัดต่อย เป็นต้น ตลอดจนช่วยในการลดไข้ โดยเหมาะสำหรับอาการปวดที่ไม่รุนแรงมากนัก รูปแบบของยาพาราเซตามอล ยาพาราเซตามอล มีด้วยกัน 3 รูปแบบ ดังนี้ 1.ชนิดเม็ดรับประทาน ยาพาราเซตามอลชนิดเม็ดจะเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 12 ปีขึ้นไปที่สามารถรับประทานยาชนิดเม็ดได้ 2.ชนิดน้ำรับประทาน ยาที่เหมาะสำหรับเด็ก โดยรับประทานได้ตั้งแต่แรกเกิด แต่ควรได้รับคำแนะนำในการใช้ยาจากแพทย์เท่านั้น 3.ชนิดฉีด ยาพาราชนิดนี้จะต้องได้รับคำสั่งในการใช้ยาจากแพทย์เช่นกัน ซึ่งจะได้รับสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ที่รักษาด้วยการรับประทานยาแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นหรือไม่ได้ผล ปริมาณการใช้ยาที่เหมาะสม 1.ยาพาราเซตามอลชนิดยารับประทาน ปริมาณการใช้ยาพาราเซตามอลสำหรับเด็ก ควรใช้ในปริมาณ 10-15 โดยมีระยะห่างในการใช้ยา 4-6 ชั่วโมง ภายใน 24 ชั่วโมง แต่ไม่ควรใช้ยาเกิน 5 ครั้ง ปริมาณการใช้ยาพาราเซตามอลสำหรับผู้ใหญ่…
ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) เป็นยาบรรเทาอาการปวด ลดไข้ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไปและนิยมใช้กันอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งยังสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อและร้านขายยาทั่วไป โดยที่ไม่ต้องใช้ใบสั่งยาจากแพทย์ นอกจากนี้ ยาพารายังจัดอยู่ในยาสามัญประจำบ้าน และวันนี้เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับยาชนิดนี้กันให้มากยิ่งขึ้น เพื่อที่คุณจะได้ใช้ยาได้อย่างเหมาะสม และลดความเสี่ยงที่อาจเป็นอันตรายจากการใช้พาราเซตามอลที่มากเกินไป สรรพคุณของยาพาราเซตามอล ยาพาราเซตามอลมีสรรพคุณในหลากหลายด้านคือ ช่วยบรรเทาอาการปวดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดประจำเดือน ปวดฟันและอาการปวดเนื่องจากแมลงสัตว์กัดต่อย เป็นต้น ตลอดจนช่วยในการลดไข้ โดยเหมาะสำหรับอาการปวดที่ไม่รุนแรงมากนัก รูปแบบของยาพาราเซตามอล ยาพาราเซตามอล มีด้วยกัน 3 รูปแบบ ดังนี้ 1.ชนิดเม็ดรับประทาน ยาพาราเซตามอลชนิดเม็ดจะเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 12 ปีขึ้นไปที่สามารถรับประทานยาชนิดเม็ดได้ 2.ชนิดน้ำรับประทาน ยาที่เหมาะสำหรับเด็ก โดยรับประทานได้ตั้งแต่แรกเกิด แต่ควรได้รับคำแนะนำในการใช้ยาจากแพทย์เท่านั้น 3.ชนิดฉีด ยาพาราชนิดนี้จะต้องได้รับคำสั่งในการใช้ยาจากแพทย์เช่นกัน ซึ่งจะได้รับสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ที่รักษาด้วยการรับประทานยาแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นหรือไม่ได้ผล ปริมาณการใช้ยาที่เหมาะสม 1.ยาพาราเซตามอลชนิดยารับประทาน ปริมาณการใช้ยาพาราเซตามอลสำหรับเด็ก ควรใช้ในปริมาณ 10-15 โดยมีระยะห่างในการใช้ยา 4-6 ชั่วโมง ภายใน 24 ชั่วโมง แต่ไม่ควรใช้ยาเกิน 5 ครั้ง ปริมาณการใช้ยาพาราเซตามอลสำหรับผู้ใหญ่…